ในปัจจุบันโน๊ตบุ๊คล้วนมีขนาดเล็กและบางลงทุกวัน จนทำให้ช่อง USB ต้องน้อยลงไปตามความบางของเครื่อง แต่ในบางครั้งการต้องเสียบสายใช้งานก็เป็นเรื่องจำเป็น ทั้งต้องเสียบเมาส์ อินเทอร์เน็ต และยังมีเผื่อกรณีต่อเข้าจอ พอร์ตหัวแปลง USB-C To HDMI จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะมาช่วยให้การใช้งานเครื่องโน๊ตบุ๊คสมบูรณ์ขึ้น ซึ่งหัวแปลง USB-C To HDMI ก็มีหลายประเภท แม้จะมีลักษณะเหมือนกันแต่อาจใช้งานได้คนละแบบ
ทำความรู้จักพอร์ตหัวแปลง USB-C To HDMI คืออะไร
หัวแปลง USB-C To HDMI ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการทำงานที่ต้องใช้งานคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ไอที ด้วยอุปกรณ์ต่อพ่วงที่ช่วยแปลงสัญญาณภาพจากอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีพอร์ต USB Type C (ThunderBolt3) ไปสู่พอร์ต HDMI และ VGA ที่ต่อใช้งานพร้อมกันได้ ยังสามารถจ่ายไฟเพิ่มได้ด้วยพอร์ตช่อง USB-C ช่วยให้เชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมอย่าง โน๊ตบุ๊ค
- พอร์ตหัวแปลง USB-C To HDMI แบบทั่วไป
พอร์ต USB-C เป็นสำหรับโอนถ่ายข้อมูลเพียงอย่างเดียว โดยมีเวอร์ชั่นปัจจุบันคือ 3.1 Gen 2 มาพร้อมความเร็วสูงสุด 10 Gbps ในโน้ตบุ๊กบางรุ่นสามารถใช้เป็นช่องเสียบไฟเลี้ยงหรือ Power Delivery (PD) ได้ด้วย โดยจะมีสัญลักษณ์คล้ายแบตฯ ครอบทับโลโก้ SS
สำหรับใช้กับโน้ตบุ๊กทั่วไป มีความเร็ว 10 Gbps (USB 3.1 Gen 2) 20 Gbps (USB 3.2 Gen 2)
- พอร์ตหัวแปลง USB-C To HDMI แบบมี DisplayPort
พอร์ต USB-C แบบพิเศษ ที่นอกจากใช้โอนถ่ายข้อมูลได้แล้ว ยังสามารถใช้เชื่อมต่อจอ Monitor ผ่านสาย USB-C เส้นเดียวได้ด้วย ซึ่งง่ายกว่าการใช้สาย HDMI หรือ DisplayPort ที่ต้องเล็งเพื่อเสียบใช้งานเสมอ แต่ USB-C ไม่ต้อง หรือหากตัวโน้ตบุ๊กมีทั้ง USB-C แบบ DisplayPort และช่อง HDMI ด้วย ก็สามารถต่อออกจอ Monitor คู่ได้เลย สามารถใช้ได้กับโน้ตบุ๊กบางเบาระดับกลาง
- Thunderbolt ¾ ช่องพอร์ตหัวแปลง USB-C To HDMI แบบครอบจักรวาล
Thunderbolt เป็นพอร์ตเชื่อมต่ออีกประเภท ซึ่งใช้ช่องเสียบแบบ USB-C เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล แต่มีคุณสมบัติที่สามารถทำได้หลายวสิ่งอย่าง ทั้งความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลที่สูงถึง 40 Gbps (Thunderbolt 4) กับต่อออกจาก Monitor เป็น PD ก็ได้ และยังสามารถต่อรับสัญญาณจากกล่อง eGPU หรือการ์ดจอแยก เพื่อทำให้โน้ตบุ๊กบางเบากลายเป็นเครื่องสเปคเกมมิ่งได้ทันที สามารถใช้ได้กับโน้ตบุ๊กบางเบา หรือมีตรา Intel Evo รวมถึงโน้ตบุ๊กเกมมิ่งบางรุ่น
ในการจะเลือกซื้อพอร์ตหัวแปลง USB-C To HDMI สามารถคำนึงได้ถึงการใช้งานโดยยึดความสะดวกของตัวเองเป็นที่ตั้งประกอบกับสเปคคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คที่ใช้งาน รวมถึงดูอุปกรณ์เชื่อมต่อ ว่าเรามีการใช้งานอุปกรณ์เสริมเยอะแค่ไหนต้องเลือกที่มีช่องเยอะเท่าไร และนำปัจจัยทั้งหมดมาประกอบรวมกันก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้อ
